วันศุกร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

การติดตามงบลงทุน





๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒

ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาพร้อมคณะได้เดินทางมาติดตามการดำเนินการงบประมาณงบลงทุนสิ่งก่อสร้าง "อาคารเรียนปฏิบัติการอเนกประสงค์ พื้นที่ใช้สอย ๔,๐๐๐ ตารางเมตร วงเงินงบประมาณ ๒๕ ล้านบาท จัดสรรปีงบประมาณ ๒๕๕๒ ๕ ล้านบาท และผูกพันปีงบประมาณ ๒๕๕๓ ๒๐ ล้านบาท ณ วิทยาลัยการอาชีพนวมินทราชินีแม่ฮ่องสอน ต้อนรับและนำการติดตามและประเมินผลโดย ผอ.ไพรัช วิมาลา และครูผู้เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการดำเนินการจัดทำรูปแบบรายการ การจัดหาผู้รับจ้างซึ่งรายละเอียดการดำเนินงานอยู่ระหว่างการดำเนินงานขั้นตอนการจัดทำรูปแบบรายการกำหนดแล้วเสร็จ วันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ และงานพัสดุจะดำเนินการจัดการหาผู้รับจ้างโดยวิธีประกหวดราคาทางอิเล็คทรอนิกส์ ( e- auction ) ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุต่อไป และคาดว่าจะได้ผู้รับจ้างภายในเดือนเมษายน

วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

นโยบายกระทรวงเกษตรฯที่สั่งการผ่านมากระทรวงศึกษาธิการกับการสั่งการนำไปสู่การปฏิบัติของสถานศึกษา

๑.หนังสือสำนักอำนวยการ ที่ ๐๖๐๑/๔๗๑ ลงวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ เรื่องมาตรการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ไฟป่า ปี ๒๕๕๒ รายละเอียดตาม
บันทึกข้อความ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สำนักกิจการพิเศษ ที่ ศธ ๐๒๓๔/๑๐๕๑๒ ลงวันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๑ เรื่องมาตรการเตรียมความทพร้อมรับสถานการณ์ไฟป่า ปี ๒๕๕๒ มอบงานบริหารทั่วไปดำเนินการประชาสัมพันตามรายละเอียดบันทึกข้อความ ข้อที่ ๑
๒.สำหรับรายละเอียดข้อที่ ๒ ฝ่ายวิชาการควรพิจารณาดำเนินการต่อไป ตามหนังสือขอความร่วมมือ
๓.สำหรับการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับไฟป่าฝ่ายพัฒนาการศึกษาควรพิจารณาดำเนินการและให้การสนับสนุน และให้ความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นที่จัดกิจกรรม การกำหนดในผังรายการสถาณีวิทยุกระจายเสียงเพื่อการศึกษาวิชาชีพ R - Redio วิทยาลัยการอาชีพนวมินทราชินีแม่ฮ่องสอน
ความรู้เกี่ยวกับไฟป่า
ความหมายของไฟป่า"ไฟป่า" คือไฟที่เกิดขึ้นจากสาเหตุอันใดก็ตามแล้วลุกลามไปได้โดยอิสระปราศจากการควบคุม ทั้งนี้ไม่ว่าไฟนั้นจะลุกลามเข้าป่าธรรมชาติหรือสวนป่า
องค์ประกอบของไฟ(สามเหลี่ยมไฟ)ไฟเป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากขบวนการทางเคมี เมื่อมีองค์ประกอบทั้ง ๓ ประการมารวมตัวกันในสัดส่วนที่เหมาะสมและเกิดการสันดาปให้เกิดไฟขึ้น คือ
๑. เชื้อเพลิง ได้แก่ อินทรีย์สารทุกชนิดที่ติดไฟได้ เช่น ต้นไม้ ไม้พุ่ม กิ่งไม้ ก้านไม้ ตอไม้ กอไผ่ รวมไปถึงดินอินทรีย์ และชั้นถ่านหินที่อยู่ใต้ผิวดิน
๒. ความร้อน ซึ่งจะมาจาก ๒ แหล่ง คือแหล่งความร้อนตามธรรมชาติ เช่น ฟ้าผ่า การเสียดสีของกิ่งไม้และแหล่งความร้อนจากการกระทำของมนุษย์ เช่น การจุดไฟในป่าด้วยสาเหตุต่างๆ
๓. ออกซิเจน เป็นก๊าซที่มีโดยทั่วไปในป่า ซึ่งจะมีการแปรผันตามทิศทางของลม
ชนิดของไฟป่าไฟป่า แบ่งเป็น ๓ชนิดซึ่งตามลักษณะของเชื้อเพลิงที่ถูกเผาไหม้ ได้แก่ ไฟใต้ดิน ไฟผิวดิน และไฟเรือนยอด
๑. ไฟใต้ดิน เป็นไฟที่ไหม้อินทรีย์ วัตถุที่สะสมอยู่ในดิน โดยลุกลามไปช้าๆใต้ผิวดินซึ่งยากที่จะสังเกตเห็นได้ เนื่องจากเปลวไฟหรือแสงสว่างไม่โผล่พ้นขึ้นมาบนดินเลย ทั้งควันก็มีน้อยยากต่อการดำเนินการดับไฟ ในประเทศไทยพบไฟใต้ดินในป่าพรุแถบภาคใต้ของประเทศ ซึ่งไฟใต้ดินยังสามารถแบ่งออกได้ ๒ ชนิด คือ- ไฟใต้ดินสมบูรณ์แบบ คือไฟที่ไหม้อยู่ใต้ผิดพื้นป่าจริงๆ ต้องใช้เครื่องมือพิเศษในการตรวจจับความร้อนจึงจะพบไฟชนิดนี้- ไฟกึ่งผิวดินกึ่งใต้ดิน ได้แก่ไฟที่ไหม้ไปในแนวระนาบตามพื้นป่าเช่นเดียวกับไฟผิวดิน ขณะเดียวกันส่วนหนึ่งก็ไหม้ในแนวดิ่งลึกลงไปในชั้นใต้ผิวพื้นป่า
๒. ไฟผิวดิน เป็นไฟที่เผาไหม้เชื้อเพลิงบนผิวดิน ไฟชนิดนี้จะเผาไหม้ลุกลามไปตามผืนป่าซึ่งเชื้อเพลิงส่วนใหญ่ได้แก่ หญ้า ใบไม้แห้ง กิ่งไม้ที่ร่วงหล่น ลูกไม้ รวมทั้งไม้พุ่มต่างๆ ไฟชนิดนี้มีการลุกลามอย่างรวดเร็วซึ่งความรุนแรงจะขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของเชื้อเพลิง ไฟป่าที่เกิดขึ้นในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นไฟชนิดนี้

ลักษณะการไหม้ของไฟผิวดิน
๓. ไฟเรือนยอด เป็นไฟทีลุกลามไปตามเรือนยอดของต้นไม้ โดยเฉพาะในป่าสน ซึ่งไม้ชนิดนี้มียางซึ่งช่วยให้เกิดการลุกลามได้ดี โดยมี ๒ ลักษณะคือลักษณะที่อาศัยไฟผิวดินเป็นสื่อ ในการลุกไหม้ก่อนไหม้ลุกลามไปตามเรือนยอด และไปสู่เรือนยอดต้นอื่นต่อไป และที่ไม่อาศัยไฟผิวดินเป็นสื่อ เกิดในป่าที่มีเรือนยอดแน่นทึบติดกันและมีไม้ยืนต้นชนิดที่ติดไฟได้ง่าย ซึ่งรุนแรงและยากต่อการควบคุม เราสามารถแบ่งไฟเรือนยอดออกเป็น ๒ ชนิด ดังนี้
๓.๑ ไฟเรือนยอดที่ต้องอาศัยไฟผิวดินเป็นสื่อ คือไฟที่ต้องอาศัยไฟที่ลุกลามไฟตามผิวดินเป็นตัวนำเปลวไฟขึ้นไฟสู่เรือนยอดของต้นไม้ ลักษณะของไฟชนิดนี้จะเห็นไฟผิวดินลุกลามไปก่อนแล้วตามด้วยไฟเรือนยอด
๓.๒ ไฟเรือนยอดที่ไม่ต้องอาศัยไฟผิวดิน เกิดในผ่าที่มีต้นไม้ที่ติดไฟได้ง่ายและมีเรือนยอดแน่นทึบต่อติดกัน การลุกลามจะเป็นไปอย่างรวดเร็วและรุนแรงจากเรือนยอดหนึ่งไปสู่อีกเรือนยอดหนึ่งและเมื่อลูกไฟตกลงบนพื้นป่า ก็จะทำให้เกิดไฟผิวดินไฟพร้อมๆ กันด้วย

ส่วนต่างๆ ของไฟ รูปร่างของไฟ ประกอบด้วย
๑. หัวไฟ คือ ส่วนของไฟที่ลุกลามไปตามทิศทางลม หรือลุกลามขึ้นไปตามความลาดชันของภูเขา เป็นส่วนของไฟที่มีอัตราการลุกลามรวดเร็วที่สุด มีเปลวไฟยาวที่สุด มีความรุนแรงของไฟมากที่สุด จึงเป็นส่วนของไฟที่มีอันตรายมากที่สุดด้วยกันเช่นกัน
๒. หางไฟ คือส่วนของไฟที่ไหม้ไปในทิศทางตรงกันข้ามกับหัวไฟ คือไหม้สวนทางลม หรือไหม้ลงมาตามลาดเขา ไฟจึงลุกลามไปอย่างช้าๆ เป็นส่วนของไฟที่เข้าควบคุมได้ง่ายที่สุด
๓. ปีกไฟ คือส่วนของไฟที่ไหม้ตั้งฉากหรือขนานไปกับทิศทางหลักของหัวไฟ ปีกไฟแบ่งเป็นปีกซ้ายและปีกขวา โดยกำหนดปีกซ้ายปีกขวาจากการยืนที่หางไฟแล้วหันหน้าไปทางหัวไฟ ปีกไฟโดยทั่วไปจะมีอัตราการลุกลามและความรุนแรงน้อยกว่าหัวไฟ แต่มากกว่าหางไฟ
๔. นิ้วไฟ คือส่วนของไฟที่เป็นแนวยาวแคบๆ ยื่นออกไปจากตัวไฟหลัก นิ้วไฟแต่ละนิ้วจะมีหัวไฟและปีกไฟของมันเอง นิ้วไฟเกิดจากเงื่อนไขของลักษณะเชื้อเพลิง และลักษณะความลาดชันของพื้นที่
๕. ขอบไฟ คือขอบเขตของไฟป่านั้นๆ ในช่วงเวลาหนึ่งๆ ซึ่งอาจจะเป็นช่วงที่ไฟกำลังไหม้ลุกลามอยู่หรือเป็นช่วงที่ไฟนั้นได้ดับลงแล้วโดยสิ้นเชิง
๖. ง่ามไฟ คือส่วนของขอบไฟที่อยู่ระหว่างนิ้วไฟ ซึ่งจะมีอัตราการลุกลามช้ากว่านิ้วไฟ ทั้งนี้เนื่องจากเงื่อนไขของลักษณะเชื้อเพลิง และลักษณะความลาดชันของพื้นที่
๗. ลูกไฟ คือส่วนของไฟที่ไหม้นำหน้าตัวไฟหลักโดยเกิดจากการที่สะเก็ดไฟจากตัวไฟหลักถูกลมพันให้ปลิวไปตกหน้าแนวไฟหลักและเกิดการลุกไหม้กลายเป็นไฟป่าขึ้นอีกหนึ่งไฟ
สาเหตุของการเกิดไฟป่า ไฟป่าจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ต้องอาศัยปัจจัย ๓ สิ่งคือ เชื้อเพลิง ออกซิเจน และความร้อน ซึ่งเป็น"องค์ประกอบของไฟ" โดยปกตินั้นในป่ามีทั้งเชื้อเพลิงเช่น กิ่งไม้ใบไม้แห้งต่างๆและออกซิเจนหรืออากาศอยู่แล้ว หากมีความร้อนขึ้นย่อมทำให้เกิดไฟป่าขึ้น ฉะนั้น"ความร้อน"จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟป่าขึ้นต้นเหตุที่ทำให้เกิดความร้อนขึ้นจนกระทั่งกลายเป็นไฟป่าอาจเกิดจากธรรมชาติเอง เช่น ต้นไม้เสียดสีกัน ฟ้าผ่าเป็นต้น หรือจากคนที่จุดไฟขึ้นด้วยวัตถุประสงค์ต่างๆ ในประเทศไทยไม่พบไฟป่าที่เกิดโดยความร้อนตามธรรมชาติ ส่วนใหญ่เกิดจากฝีมือของคนทั้งสิ้น มนุษย์จึงเป็นต้นเหตุของไฟป่า ที่สำคัญยิ่ง"สาเหตุ" ที่ทำให้เกิดไฟป่าโดยฝีมือของมนุษย์ทั้งตั้งใจหรือโดยประมาทในประเทศไทยแบ่งตามลักษณะของกิจกรรมและวัตถุประสงค์ที่เกิดขึ้นดังนี้
-ล่าสัตว์- จุดไฟเพื่อให้สัตว์หนีออกจากที่ซ่อน เพื่อสะดวกในการล่า-เผาไร่- เผากำจัดวัชพืช เตรียมพื้นที่เพาะปลูกโดยปราศจากการควบคุมทำให้ไฟลุกลามเข้าไปในป่า-หาของป่า- ตีผึ้ง เก็บไข่มดแดง ผักหวาน หน่อไม้ เห็ด ใบตองตึง เก็บฟืน-เลี้ยงสัตว์- เพื่อให้หญ้าแตกใบอ่อนเป็นอาหารสัตว์ในบริเวณใกล้พื้นที่ป่าแล้วเกิดลุกลามเข้าไปในป่า-นักท่องเที่ยว- หุงต้มอาหาร ให้แสงสว่าง ให้ความอบอุ่น แล้วดับไม่สนิทเกิดเป็นไฟป่าในที่สุด-ความขัดแย้ง- ชาวบ้านอาจเกิดความขัดแย้งกับหน่วยราชการในพื้นที่แล้วแกล้งโดยจุดไฟเผาป่า-ลักลอบทำไม้- เผาทางให้โล่งเตียนเพื่อสะดวกในการลากไม้ ไล่ยุง หุงต้มอาหารในป่า เป็นต้น
ผลกระทบจากไฟป่าผลกระทบจากไฟป่าต่อสังคมพืช
- ขาดช่วงการสืบพันธุ์ทดแทนตามธรรมชาติ- เปลี่ยนแปลงโครงสร้างป่า- ลดการเจริญเติบโตและคุณภาพของเนื้อไม้ทันทีที่เกิด"ไฟป่า"ขึ้นความร้อนและเปลวไฟจากไฟป่า จะทำลายลูกไม้ กล้าไม้เล็กๆในป่า หมดโอกาสเติบโตเป็นไม้ใหญ่ ส่วนต้นไม้ใหญ่หยุดการเจริญเติบโต เนื้อไม้เสื่อมคุณภาพลง เป็นแผลเกิดเชื้อโรคและแมลงเข้ากัดทำลายเนื้อไม้ สภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์เปลี่ยนสภาพเป็นทุ่งหญ้าไปในที่สุด
ผลกระทบจากไฟป่าต่อสัตว์ป่าและสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ในป่า- ทำอันตรายต่อชีวิตของสัตว์ป่า- ทำลายแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า- ทำอันครายต่อชีวิตของสัตว์เล็กๆ และจุลินทรีย์ในดิน"ไฟป่า" ส่งผลให้สัตว์ป่าได้รับบาดเจ็บ ล้มตาย เพราะหนีไฟไม่ทันโดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกอ่อนและสัตว์ที่เคลื่อนไหวช้า ที่หนีรอดก็ขาดที่อยู่อาศัยรวมไปถึงแหล่งอาหาร ในที่สุดก็อาจต้องตายเช่นเดียวกัน

ผลกระทบจากไฟป่าต่อสภาวะอากาศโลก - การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากอุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้น- การเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจกหมอกควันที่เกิดจาก"ไฟป่า" ก่อให้เกิดผลกระทบมากมายทั้งสภาวะอากาศเป็นพิษทำลายสุขภาพของคน เกิดทัศนวิสัยไม่ดีต่อการบินเครื่องบินบางครั้งไม่สามารถขึ้นบินหรือลงจอดได้ส่งผลให้เกิดผลเสียหายทางเศรษฐกิจ รวมไปถึงสูญเสียสภาพความสวยงามตามธรรมชาติ ทำให้สภาพไม่เหมาะในการท่องเที่ยวอีกต่อไป
ผลกระทบจากไฟป่าต่อดินป่าไม้ - เกิดการสูญเสียหน้าดินโดยการกัดชะและการพังทลาย- เปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของดินY คุณสมบัติทางกายภาพY คุณสมบัติทางเคมี"ไฟป่า" เผาทำลายสิ่งปกคลุมดิน หน้าดินจึงเปิดโล่ง เมื่อฝนตกลงมาเม็ดฝนก็จะตกกระแทกกับหน้าดินโดยตรง เกิดการชะล้างพังทลายของดินได้ง่าย ทำให้น้ำที่ไหลบ่าไปตามหน้าดิน พัดพาหน้าดินอันอุดมสมบูรณ์ไปด้วย และดินอัดตัวแน่นทึบขึ้นการซึมน้ำไม่ดี ทำให้การอุ้มน้ำหรือดูดซับความชื้นของดินลดลงไม่สามารถเก็บกักน้ำและธาตุอาหารที่จำเป็นต่อพืชได้
ผลกระทบจากไฟป่าต่อน้ำ - สมดุลของน้ำเปลี่ยนแปลงทำให้เกิดอุทกภัยและภัยแล้ง- เปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของน้ำน้ำที่เต็มไปด้วยตะกอนและขี้เถ้าจากผลของ"ไฟป่า"จะไหลสู่ลำห้วยลำธาร ทำให้ลำห้วยขุ่นข้นมีสภาพไม่เหมาะต่อการใช้อีกต่อไป เมื่อดินตะกอนไปถับถมในแม่น้ำมากขึ้น ลำน้ำก็จะตื้นเขิน จุน้ำได้น้อยลง เมื่อฝนตกลงมาน้ำก็จะเอ่อล้นท่วมสองฝั่งเกิดเป็นอุทกภัย ที่สร้างความเสียหายในด้านการเกษตรการเพาะปลูก การเลี้ยงสัตว์ และสร้างความเสียหายเมื่อน้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนทำให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย หน้าแล้งพื้นดินที่มีแต่กรวดทรายและชั้นดินแน่นทึบจากผลของ"ไฟป่า" ไม่สามารถเก็บกักน้ำในช่วงฤดูฝนเอาไว้ได้ ทำให้ลำน้ำแห้งขอดเกิดสภาวะแห้งแล้งขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภคและเพื่อการเกษตร
ผลกระทบจากไฟป่าต่อการนันทนาการ ผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากไฟป่านั้น มีส่วนในการทำลายธรรมชาติ ซึ่งเป็นสถานที่ และแหล่งท่องเที่ยวอันเป็นรายได้สำคัญของประเทศ รวมทั้งจะทำให้ขาดแหล่งพักผ่อนหย่อนใจตามธรรมชาติผลกระทบจากไฟป่าต่อทรัพย์สิน สุขภาพ และชีวิตของมนุษย์ในพื้นที่ที่เกิดไฟป่า ส่วนใหญ่จะทำความเสียหายให้กับบ้านเรือนของราษฎรที่อาศัยอยู่บริเวณชายป่า ทั้งบ้านเรือนที่ถูกไฟไหม้ พืชผลทางการเกษตร หรือแม้แต่ชีวิตหมอกควันที่เกิดจากไฟป่า มีผลกระทบโดยตรงที่จะสร้างความเสียหายให้กับการเดินอากาศ รวมทั้งมีผลทำให้ประชาชนในบริเวณดับกล่าวจำนวนมาก ป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ
แนวคิดเกี่ยวกับไฟป่าชาวบ้าน ขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องไฟป่า ความประมาทรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขาดความรู้สึกหวงแหนป่า ทำให้ไม่ได้ร่วมมือกันป้องกันไฟป่าอย่างจริงจังและสาเหตุใหญ่คือคนที่ขาดจิตสำนึกบางคนเผาป่าโดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวเป็นสำคัญเจ้าหน้าที่ จัดการป่าไม้ได้ไม่ทั่วถึงมีวัชพืชที่เป็นเชื้อเพลิงมากในหน้าความรู้เกี่ยวกับไฟป่า
ความหมายของไฟป่า"ไฟป่า" คือไฟที่เกิดขึ้นจากสาเหตุอันใดก็ตามแล้วลุกลามไปได้โดยอิสระปราศจากการควบคุม ทั้งนี้ไม่ว่าไฟนั้นจะลุกลามเข้าป่าธรรมชาติหรือสวนป่า
องค์ประกอบของไฟ(สามเหลี่ยมไฟ)ไฟเป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากขบวนการทางเคมี เมื่อมีองค์ประกอบทั้ง ๓ ประการมารวมตัวกันในสัดส่วนที่เหมาะสมและเกิดการสันดาปให้เกิดไฟขึ้น คือ
๑. เชื้อเพลิง ได้แก่ อินทรีย์สารทุกชนิดที่ติดไฟได้ เช่น ต้นไม้ ไม้พุ่ม กิ่งไม้ ก้านไม้ ตอไม้ กอไผ่ รวมไปถึงดินอินทรีย์ และชั้นถ่านหินที่อยู่ใต้ผิวดิน
๒. ความร้อน ซึ่งจะมาจาก ๒ แหล่ง คือแหล่งความร้อนตามธรรมชาติ เช่น ฟ้าผ่า การเสียดสีของกิ่งไม้และแหล่งความร้อนจากการกระทำของมนุษย์ เช่น การจุดไฟในป่าด้วยสาเหตุต่างๆ
๓. ออกซิเจน เป็นก๊าซที่มีโดยทั่วไปในป่า ซึ่งจะมีการแปรผันตามทิศทางของลม
ชนิดของไฟป่าไฟป่า แบ่งเป็น ๓ ชนิดซึ่งตามลักษณะของเชื้อเพลิงที่ถูกเผาไหม้ ได้แก่ ไฟใต้ดิน ไฟผิวดิน และไฟเรือนยอด
๑. ไฟใต้ดิน เป็นไฟที่ไหม้อินทรีย์ วัตถุที่สะสมอยู่ในดิน โดยลุกลามไปช้าๆใต้ผิวดินซึ่งยากที่จะสังเกตเห็นได้ เนื่องจากเปลวไฟหรือแสงสว่างไม่โผล่พ้นขึ้นมาบนดินเลย ทั้งควันก็มีน้อยยากต่อการดำเนินการดับไฟ ในประเทศไทยพบไฟใต้ดินในป่าพรุแถบภาคใต้ของประเทศ ซึ่งไฟใต้ดินยังสามารถแบ่งออกได้ ๒ ชนิด คือ- ไฟใต้ดินสมบูรณ์แบบ คือไฟที่ไหม้อยู่ใต้ผิดพื้นป่าจริงๆ ต้องใช้เครื่องมือพิเศษในการตรวจจับความร้อนจึงจะพบไฟชนิดนี้- ไฟกึ่งผิวดินกึ่งใต้ดิน ได้แก่ไฟที่ไหม้ไปในแนวระนาบตามพื้นป่าเช่นเดียวกับไฟผิวดิน ขณะเดียวกันส่วนหนึ่งก็ไหม้ในแนวดิ่งลึกลงไปในชั้นใต้ผิวพื้นป่า
๒. ไฟผิวดิน เป็นไฟที่เผาไหม้เชื้อเพลิงบนผิวดิน ไฟชนิดนี้จะเผาไหม้ลุกลามไปตามผืนป่าซึ่งเชื้อเพลิงส่วนใหญ่ได้แก่ หญ้า ใบไม้แห้ง กิ่งไม้ที่ร่วงหล่น ลูกไม้ รวมทั้งไม้พุ่มต่างๆ ไฟชนิดนี้มีการลุกลามอย่างรวดเร็วซึ่งความรุนแรงจะขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของเชื้อเพลิง ไฟป่าที่เกิดขึ้นในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นไฟชนิดนี้
ลักษณะการไหม้ของไฟผิวดิน
๓. ไฟเรือนยอด เป็นไฟทีลุกลามไปตามเรือนยอดของต้นไม้ โดยเฉพาะในป่าสน ซึ่งไม้ชนิดนี้มียางซึ่งช่วยให้เกิดการลุกลามได้ดี โดยมี ๒ ลักษณะคือลักษณะที่อาศัยไฟผิวดินเป็นสื่อ ในการลุกไหม้ก่อนไหม้ลุกลามไปตามเรือนยอด และไปสู่เรือนยอดต้นอื่นต่อไป และที่ไม่อาศัยไฟผิวดินเป็นสื่อ เกิดในป่าที่มีเรือนยอดแน่นทึบติดกันและมีไม้ยืนต้นชนิดที่ติดไฟได้ง่าย ซึ่งรุนแรงและยากต่อการควบคุม เราสามารถแบ่งไฟเรือนยอดออกเป็น ๒ ชนิด ดังนี้
๓.๑ ไฟเรือนยอดที่ต้องอาศัยไฟผิวดินเป็นสื่อ คือไฟที่ต้องอาศัยไฟที่ลุกลามไฟตามผิวดินเป็นตัวนำเปลวไฟขึ้นไฟสู่เรือนยอดของต้นไม้ ลักษณะของไฟชนิดนี้จะเห็นไฟผิวดินลุกลามไปก่อนแล้วตามด้วยไฟเรือนยอด
๓.๒ ไฟเรือนยอดที่ไม่ต้องอาศัยไฟผิวดิน เกิดในผ่าที่มีต้นไม้ที่ติดไฟได้ง่ายและมีเรือนยอดแน่นทึบต่อติดกัน การลุกลามจะเป็นไปอย่างรวดเร็วและรุนแรงจากเรือนยอดหนึ่งไปสู่อีกเรือนยอดหนึ่งและเมื่อลูกไฟตกลงบนพื้นป่า ก็จะทำให้เกิดไฟผิวดินไฟพร้อมๆ กันด้วย
ส่วนต่างๆ ของไฟ รูปร่างของไฟ ประกอบด้วย
๑. หัวไฟ คือ ส่วนของไฟที่ลุกลามไปตามทิศทางลม หรือลุกลามขึ้นไปตามความลาดชันของภูเขา เป็นส่วนของไฟที่มีอัตราการลุกลามรวดเร็วที่สุด มีเปลวไฟยาวที่สุด มีความรุนแรงของไฟมากที่สุด จึงเป็นส่วนของไฟที่มีอันตรายมากที่สุดด้วยกันเช่นกัน
๒. หางไฟ คือส่วนของไฟที่ไหม้ไปในทิศทางตรงกันข้ามกับหัวไฟ คือไหม้สวนทางลม หรือไหม้ลงมาตามลาดเขา ไฟจึงลุกลามไปอย่างช้าๆ เป็นส่วนของไฟที่เข้าควบคุมได้ง่ายที่สุด
๓. ปีกไฟ คือส่วนของไฟที่ไหม้ตั้งฉากหรือขนานไปกับทิศทางหลักของหัวไฟ ปีกไฟแบ่งเป็นปีกซ้ายและปีกขวา โดยกำหนดปีกซ้ายปีกขวาจากการยืนที่หางไฟแล้วหันหน้าไปทางหัวไฟ ปีกไฟโดยทั่วไปจะมีอัตราการลุกลามและความรุนแรงน้อยกว่าหัวไฟ แต่มากกว่าหางไฟ๔. นิ้วไฟ คือส่วนของไฟที่เป็นแนวยาวแคบๆ ยื่นออกไปจากตัวไฟหลัก นิ้วไฟแต่ละนิ้วจะมีหัวไฟและปีกไฟของมันเอง นิ้วไฟเกิดจากเงื่อนไขของลักษณะเชื้อเพลิง และลักษณะความลาดชันของพื้นที่๕. ขอบไฟ คือขอบเขตของไฟป่านั้นๆ ในช่วงเวลาหนึ่งๆ ซึ่งอาจจะเป็นช่วงที่ไฟกำลังไหม้ลุกลามอยู่หรือเป็นช่วงที่ไฟนั้นได้ดับลงแล้วโดยสิ้นเชิง๖. ง่ามไฟ คือส่วนของขอบไฟที่อยู่ระหว่างนิ้วไฟ ซึ่งจะมีอัตราการลุกลามช้ากว่านิ้วไฟ ทั้งนี้เนื่องจากเงื่อนไขของลักษณะเชื้อเพลิง และลักษณะความลาดชันของพื้นที่๗. ลูกไฟ คือส่วนของไฟที่ไหม้นำหน้าตัวไฟหลักโดยเกิดจากการที่สะเก็ดไฟจากตัวไฟหลักถูกลมพันให้ปลิวไปตกหน้าแนวไฟหลักและเกิดการลุกไหม้กลายเป็นไฟป่าขึ้นอีกหนึ่งไฟ
สาเหตุของการเกิดไฟป่า ไฟป่าจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ต้องอาศัยปัจจัย ๓ สิ่งคือ เชื้อเพลิง ออกซิเจน และความร้อน ซึ่งเป็น"องค์ประกอบของไฟ" โดยปกตินั้นในป่ามีทั้งเชื้อเพลิงเช่น กิ่งไม้ใบไม้แห้งต่างๆและออกซิเจนหรืออากาศอยู่แล้ว หากมีความร้อนขึ้นย่อมทำให้เกิดไฟป่าขึ้น ฉะนั้น"ความร้อน"จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟป่าขึ้นต้นเหตุที่ทำให้เกิดความร้อนขึ้นจนกระทั่งกลายเป็นไฟป่าอาจเกิดจากธรรมชาติเอง เช่น ต้นไม้เสียดสีกัน ฟ้าผ่าเป็นต้น หรือจากคนที่จุดไฟขึ้นด้วยวัตถุประสงค์ต่างๆ ในประเทศไทยไม่พบไฟป่าที่เกิดโดยความร้อนตามธรรมชาติ ส่วนใหญ่เกิดจากฝีมือของคนทั้งสิ้น มนุษย์จึงเป็นต้นเหตุของไฟป่า ที่สำคัญยิ่ง"สาเหตุ" ที่ทำให้เกิดไฟป่าโดยฝีมือของมนุษย์ทั้งตั้งใจหรือโดยประมาทในประเทศไทยแบ่งตามลักษณะของกิจกรรมและวัตถุประสงค์ที่เกิดขึ้นดังนี้
-ล่าสัตว์
- จุดไฟเพื่อให้สัตว์หนีออกจากที่ซ่อน เพื่อสะดวกในการล่า-เผาไร่
- เผากำจัดวัชพืช เตรียมพื้นที่เพาะปลูกโดยปราศจากการควบคุมทำให้ไฟลุกลามเข้าไปในป่า
-หาของป่า
- ตีผึ้ง เก็บไข่มดแดง ผักหวาน หน่อไม้ เห็ด ใบตองตึง เก็บฟืน
-เลี้ยงสัตว์
- เพื่อให้หญ้าแตกใบอ่อนเป็นอาหารสัตว์ในบริเวณใกล้พื้นที่ป่าแล้วเกิดลุกลามเข้าไปในป่า
-นักท่องเที่ยว
- หุงต้มอาหาร ให้แสงสว่าง ให้ความอบอุ่น แล้วดับไม่สนิทเกิดเป็นไฟป่าในที่สุด
-ความขัดแย้ง
- ชาวบ้านอาจเกิดความขัดแย้งกับหน่วยราชการในพื้นที่แล้วแกล้งโดยจุดไฟเผาป่า
-ลักลอบทำไม้
- เผาทางให้โล่งเตียนเพื่อสะดวกในการลากไม้ ไล่ยุง หุงต้มอาหารในป่า เป็นต้น

ผลกระทบจากไฟป่าผลกระทบจากไฟป่าต่อสังคมพืช
- ขาดช่วงการสืบพันธุ์ทดแทนตามธรรมชาติ
- เปลี่ยนแปลงโครงสร้างป่า
- ลดการเจริญเติบโตและคุณภาพของเนื้อไม้ทันทีที่เกิด"ไฟป่า"ขึ้นความร้อนและเปลวไฟจากไฟป่า จะทำลายลูกไม้ กล้าไม้เล็กๆในป่า หมดโอกาสเติบโตเป็นไม้ใหญ่ ส่วนต้นไม้ใหญ่หยุดการเจริญเติบโต เนื้อไม้เสื่อมคุณภาพลง เป็นแผลเกิดเชื้อโรคและแมลงเข้ากัดทำลายเนื้อไม้ สภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์เปลี่ยนสภาพเป็นทุ่งหญ้าไปในที่สุดผลกระทบจากไฟป่าต่อสัตว์ป่าและสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ในป่า
- ทำอันตรายต่อชีวิตของสัตว์ป่า
- ทำลายแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า
- ทำอันครายต่อชีวิตของสัตว์เล็กๆ และจุลินทรีย์ในดิน"ไฟป่า" ส่งผลให้สัตว์ป่าได้รับบาดเจ็บ ล้มตาย เพราะหนีไฟไม่ทันโดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกอ่อนและสัตว์ที่เคลื่อนไหวช้า ที่หนีรอดก็ขาดที่อยู่อาศัยรวมไปถึงแหล่งอาหาร ในที่สุดก็อาจต้องตายเช่นเดียวกัน

ผลกระทบจากไฟป่าต่อสภาวะอากาศโลก
- การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากอุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้น
- การเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจกหมอกควันที่เกิดจาก"ไฟป่า" ก่อให้เกิดผลกระทบมากมายทั้งสภาวะอากาศเป็นพิษทำลายสุขภาพของคน เกิดทัศนวิสัยไม่ดีต่อการบินเครื่องบินบางครั้งไม่สามารถขึ้นบินหรือลงจอดได้ส่งผลให้เกิดผลเสียหายทางเศรษฐกิจ รวมไปถึงสูญเสียสภาพความสวยงามตามธรรมชาติ ทำให้สภาพไม่เหมาะในการท่องเที่ยวอีกต่อไป

ผลกระทบจากไฟป่าต่อดินป่าไม้
- เกิดการสูญเสียหน้าดินโดยการกัดชะและการพังทลาย
- เปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของดินY คุณสมบัติทางกายภาพY คุณสมบัติทางเคมี"ไฟป่า" เผาทำลายสิ่งปกคลุมดิน หน้าดินจึงเปิดโล่ง เมื่อฝนตกลงมาเม็ดฝนก็จะตกกระแทกกับหน้าดินโดยตรง เกิดการชะล้างพังทลายของดินได้ง่าย ทำให้น้ำที่ไหลบ่าไปตามหน้าดิน พัดพาหน้าดินอันอุดมสมบูรณ์ไปด้วย และดินอัดตัวแน่นทึบขึ้นการซึมน้ำไม่ดี ทำให้การอุ้มน้ำหรือดูดซับความชื้นของดินลดลงไม่สามารถเก็บกักน้ำและธาตุอาหารที่จำเป็นต่อพืชได้

ผลกระทบจากไฟป่าต่อน้ำ
- สมดุลของน้ำเปลี่ยนแปลงทำให้เกิดอุทกภัยและภัยแล้ง
- เปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของน้ำน้ำที่เต็มไปด้วยตะกอนและขี้เถ้าจากผลของ"ไฟป่า"จะไหลสู่ลำห้วยลำธาร ทำให้ลำห้วยขุ่นข้นมีสภาพไม่เหมาะต่อการใช้อีกต่อไป เมื่อดินตะกอนไปถับถมในแม่น้ำมากขึ้น ลำน้ำก็จะตื้นเขิน จุน้ำได้น้อยลง เมื่อฝนตกลงมาน้ำก็จะเอ่อล้นท่วมสองฝั่งเกิดเป็นอุทกภัย ที่สร้างความเสียหายในด้านการเกษตรการเพาะปลูก การเลี้ยงสัตว์ และสร้างความเสียหายเมื่อน้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนทำให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย หน้าแล้งพื้นดินที่มีแต่กรวดทรายและชั้นดินแน่นทึบจากผลของ"ไฟป่า" ไม่สามารถเก็บกักน้ำในช่วงฤดูฝนเอาไว้ได้ ทำให้ลำน้ำแห้งขอดเกิดสภาวะแห้งแล้งขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภคและเพื่อการเกษตร

ผลกระทบจากไฟป่าต่อการนันทนาการ ผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากไฟป่านั้น มีส่วนในการทำลายธรรมชาติ ซึ่งเป็นสถานที่ และแหล่งท่องเที่ยวอันเป็นรายได้สำคัญของประเทศ รวมทั้งจะทำให้ขาดแหล่งพักผ่อนหย่อนใจตามธรรมชาติผลกระทบจากไฟป่าต่อทรัพย์สิน สุขภาพ และชีวิตของมนุษย์ในพื้นที่ที่เกิดไฟป่า ส่วนใหญ่จะทำความเสียหายให้กับบ้านเรือนของราษฎรที่อาศัยอยู่บริเวณชายป่า ทั้งบ้านเรือนที่ถูกไฟไหม้ พืชผลทางการเกษตร หรือแม้แต่ชีวิตหมอกควันที่เกิดจากไฟป่า มีผลกระทบโดยตรงที่จะสร้างความเสียหายให้กับการเดินอากาศ รวมทั้งมีผลทำให้ประชาชนในบริเวณดับกล่าวจำนวนมาก ป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ

แนวคิดเกี่ยวกับไฟป่าชาวบ้าน ขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องไฟป่า ความประมาทรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขาดความรู้สึกหวงแหนป่า ทำให้ไม่ได้ร่วมมือกันป้องกันไฟป่าอย่างจริงจังและสาเหตุใหญ่คือคนที่ขาดจิตสำนึกบางคนเผาป่าโดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวเป็นสำคัญเจ้าหน้าที่ จัดการป่าไม้ได้ไม่ทั่วถึงมีวัชพืชที่เป็นเชื้อเพลิงมากในหน้าแล้ง การป้องกันและควบคุมไฟป่าปฏิบัติครอบคลุมไม่ได้ทั่วถึง ขาดงบประมาณและเจ้าหน้าที่อีกจำนวนมาก รวมทั้งยังไม่ได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านเท่าที่ควรด้วย
ดับไฟป่าการแก้ไข้ปัญหาที่ปลายเหตุ
แล้ง การป้องกันและควบคุมไฟป่าปฏิบัติครอบคลุมไม่ได้ทั่วถึง ขาดงบประมาณและเจ้าหน้าที่อีกจำนวนมาก รวมทั้งยังไม่ได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านเท่าที่ควรด้วยดับไฟป่าการแก้ไข้ปัญหาที่ปลายเหตุ

การป้องกันไฟป่า

แบ่งออกเป็น ๒ กิจกรรม คือ
การรณรงค์ประชาสัมพันธ์ป้องกันไฟป่า เป็นแนวทางแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ โดยดำเนินการทุกวิถีทางที่จะป้องกันไม่ให้เกิดไฟป่า ให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความเสียหายของไฟป่าที่จะเกิดกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เห็นถึงความจำเป็นที่ต้องอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ การประชาสัมพันธ์ป้องกันไฟป่า ดำเนินการในรูปแบบต่างๆ ดังนี้
๑.๑) ประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ ดำเนินการโดยจัดหน่วยงานประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ ออกพบปะกับประชาชนโดยตรง เพื่อชี้แจงให้ทราบถึงผลเสียหายของไฟป่าที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะทรัพยากรป่าไม้ ดิน น้ำ และสัตว์ป่า ประโยชน์ของทรัพยากรธรรมชาติ และขอความร่วมมือให้ประชาชนเลิกจุดไฟเผาป่า และช่วยป้องกันไฟป่า การประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่จะทำในรูป การจัดรถติดเครื่องขยายเสียงกระจายเสียงไปตามหมู่บ้าน จัดภาพยนตร์หรือดนตรีไปแสดงตามหมู่บ้าน เพื่อโน้มน้าวให้ประชาชนมาชุมนุมกันแล้วสอดแทรกการให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันไฟป่า ระหว่างพักการแสดงหรือทำในรูปการเข้าร่วมประชุม หมู่บ้าน ตำบล หรือการประชุมกลุ่มกิจกรรมของหมู่บ้านเพื่อพบประชาชนโดยตรง
๑.๒) ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชน ดำเนินการโดยขอความร่วมมือสื่อมวลชนเผยแพร่ บทความ สารคดีเกี่ยวกับไฟป่า ประกาศขอความร่วมมือป้องกันไฟป่าในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ทำสปอร์คำขวัญเกี่ยวกับไฟป่า กระจายเสียงตามสถานีวิทยุจัดทำสไลด์ฉายตามโรงภาพยนตร์
๑.๓) ป้ายประชาสัมพันธ์ ดำเนินการจัดทำแผ่นป้ายประกอบด้วยรูปภาพและคำขวัญป้องกันไฟป่า เชิญชวนให้ราษฎรร่วมมือป้องกันไฟป่าและอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ เช่น “ ป่าไม้เป็นศรี อัคคีเป็นภัย ร่วมแรงร่วมใจ ป้องกันไฟป่า ” โดยติดป้ายประชาสัมพันธ์ตามสถานที่สาธารณะ ซึ่งประชาชนทั่วไปมองเห็นได้ง่าย เช่น ตามสถานที่ราชการ แนวสองข้างทางถนน หรือตามแนวทางเดินป่า เป็นต้น
๑.๔) สิ่งตีพิมพ์ ได้แก่ รูปลอก แผ่นปลิว แผ่นพับ โปสเตอร์ ปฏิทิน มีข้อความหรือบทความสั้น ๆ เกี่ยวกับไฟป่าเพื่อแจกจ่ายตามหมู่บ้าน โรงเรียน สถานที่ราชการ เป็นต้น
๑.๕)เอกสารเผยแพร่ ดำเนินการโดยจัดทำจุลสารบรรยายถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สภาพปัญหาไฟป่า การแก้ไขปัญหาไฟป่า การป้องกันไฟป่าโดยจัดทำแยกเป็นเรื่องๆ เพื่อให้เป็นสื่อในการประชาสัมพันธ์ป้องกันไฟป่าอย่างต่อเนื่องตลอดปี มิใช่ดำเนินการเฉพาะแต่ในช่วงฤดูไฟป่าเท่านั้น
๑.๖) นิทรรศการ ดำเนินการโดยจัดทำภาพกิจกรรมเกี่ยวกับการป้องกันไฟป่า ข้อดีและข้อเสียของไฟป่าไว้แสดงตามสถานศึกษา สถานที่ราชการ สถานที่สาธารณะ เช่น หมู่บ้าน วัด และในงานประเพณีต่าง ๆ ที่มีเยาวชนประชาชนร่วมชุมนุมกันเป็นจำนวนมาก โดยเน้นให้ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องต่อปัญหาไฟป่า แก่ประชาชนและเยาวชนโดยทั่วไป
๑.๗) ให้การศึกษา ดำเนินการโดยจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปให้ความรู้แก่นักเรียนตามโรงเรียนต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ตลอดจนปลูกฝังทัศนคติที่ถูกต้องในเรื่องปัญหาไฟป่าแก่เยาวชน เพื่อให้เยาวชนเกิดความรักและหวงแหนทรัพยากรป่าไม้ และเกิดความรู้สึกรับผิดชอบต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ รูปแบบของการให้การศึกษา ได้แก่ การจัดฉายสไลด์ ภาพยนตร์ วีดีโอ ภาพบรรยาย สอนร้องเพลงเกี่ยวกับป่าไม้ หรือผูกเรื่องที่จะสอนเป็นนิทาน ละคร หุ่นกระบอก ซึ่งจะดึงดูดเยาวชนให้มีความสนใจที่จะรับรู้มากขึ้น
๒.การจัดการเชื้อเพลิง โดยการทำแนวกันไฟและการชิงเผา ในพื้นที่ที่มีความสำคัญสูงหรือพื้นที่ที่ล่อแหลมต่อการเกิดไฟป่า เช่น มีวัชพืชหนาแน่น พื้นที่สองข้างทาง ซึ่งมีโอกาสเกิดไฟป่าได้ง่ายและเมื่อเกิดไฟป่าจะมีความรุนแรงมากยากต่อการควบคุม การจัดการเชื้อเพลิงจึงมีวัตถุประสงค์ เพื่อลดโอกาสในการเกิดไฟป่า ถ้าเกิดไฟป่าขึ้นไฟนั้นจะมีความรุนแรงน้อยกว่าเดิม ทำให้สามารถควบคุมได้ง่าย
๓.สนับสนุนการดับไฟป่าโดยชุดปฎิบัติการพิเศษดับไฟป่า (หน่วยเสือไฟ)
ในช่วงฤดูไฟป่าศูนย์ฯจะต้องมีการเตรียมกำลังของชุดปฎิบัติการพิเศษดับไฟป่า (หน่วยเสือไฟ)
เพื่อสนับสนุนการดับไฟป่าในกรณีเกิดไฟป่าในพื้นที่วิกฤติ และได้รับการร้องขอจากหน่วยดับไฟป่าต่างๆ ในพื้นที่ ๓ จังหวัด คือ เชียงใหม่ ลำพูน และแม่ฮ่องสอน เพื่อส่งกำลังเข้าไปสนับสนุนตลอด ๒๔ ชั่วโมง

วันศุกร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

สิ่งประดิษฐ์คนรุ่นใหม่ที่น่าสนใจ


เครื่องย่อยใบไม้
มีประโยชน์ในการทำให้ใบไม้มีขนาดเล็กลงย่อยสลายได้ง่ายและนำไปทำปุ๋ยได้รวดเร็วสอดคล้องกับการป้องกันการเฝาป่า ขยะ ใบไม้ในบริเวณบ้าน ในสถานศึกษาได้อีกทางหนึ่ง

ร่วมอบรม ร่วมกิจกรรมสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา








วันที่ ๕-๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒
ร่วมอบรมตามโครงการส่งเสริมการพัฒนาความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายข้อมูลข่าวสารและการปฏิบัติหน้าที่ในการให้บริการข้อมูลข่าวสาร ณ โรงแรมฟรายเดย์ จังหวัดอุตรดิตถ์
๑.พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ.๒๕๔๐ "สิทธิของประชาชนและบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐ"
๒.การบริหารข้อมูลข่าวสารของราชการในสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
๓.การปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.๒๕๔๐ ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ
๔.การปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.๒๕๔๐ ของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
วันที่ ๗-๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒
ร่วมกิจกรรมการจัดนิทรรศการและการประกวดสิ่งประดิษฐ์คนรุ่นใหม่และการแข่งขันหุ่นยนต์ยุวชน ระดับชาติ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๑ ระหว่างวันที่ ๕-๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ ณ เอ็ม ซี ซี ฮอลล์ เดอะมอลล์บางกะปิ กรุงเทพมหานคร
วันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒
ร่วมรับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน เป็นองค์ประธาน ทรงเปิดงานการประชุมวิชาการ อกท.ระดับชาติครั้งที่ ๑๐ ณ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชลบุรี โดยวิทยาลัยการอาชีพนวมินทราชินีแม่ฮ่องสอนได้นำเสนอโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานน้ำ เพื่อติดตั้งให้กับโรงเรียนตำรวจตรเวนชายแดน ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์ไทยอนุสรณ์ ๑ บ้านแสนคำลือ

วันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

กรรมการคุรุสภาสัญจร




วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒
คณะกรรมการคุรุสภาสัญจรจังหวัดแม่ฮ่องสอนพร้อมด้วยคณะกรรมการ สกสค.ให้ความรู้และบริการนอกสถานที่เกี่ยวกับสิทธิและใบประกอบวิชาชีพครูการต่อใบประกอบวิชาชีพครู การตอบปัญหาต่างๆที่สมาชิกครูและบุคลากรทางการศึกษาประสบปัญหาและอุปสรรค